Articles

Private Placement: เปิดทางขายหุ้น – หุ้นกู้แปลงสภาพ

อีกช่องทางระดมทุนที่ ก.ล.ต. พร้อมให้ SMEs และ Startups ใช้ได้ตั้งแต่ 30 มีนาคม 2563 คือ การออกหลักเกณฑ์เพื่อเปิดทางให้ SMEs และ Startups ที่เป็นบริษัทจำกัดสามารถระดมทุนในวงจำกัด (Private Placement) โดยเสนอขายหุ้นหรือหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Bond) ให้แก่ผู้ลงทุนรวมถึงพนักงานได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ระดมทุนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และยังใช้เป็นเครื่องมือจูงใจให้บุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานกับบริษัทได้ ทั้งนี้ การปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ ก.ล.ต. ได้รับฟังความคิดเห็นของ SMEs/Startups และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พบว่าการระดมทุนของกิจการเหล่านี้ (ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด) ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายจุด เช่น การขายหุ้นเพิ่มทุนต้องขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนที่จะนำหุ้นไปขายให้ผู้ลงทุนเป้าหมายอีกทอดหนึ่ง บริษัทไม่สามารถออกหุ้นเพื่อเตรียมไว้ทยอยให้แก่พนักงานหรือซื้อ หุ้นคืนจากพนักงานที่ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการทำงานที่ตกลงกันได้ รวมทั้งไม่สามารถขายหุ้นกู้แปลงสภาพได้ ทั้ง ๆ ที่หุ้นกู้แปลงสภาพสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนใน SMEs และ Startups ได้ดี เพราะผู้ลงทุนอาจต้องการให้กู้ยืมเงินก่อนในช่วงแรกและเมื่อกิจการเติบโตขึ้นจึงตัดสินใจใช้สิทธิแปลงสภาพจากหุ้นกู้เป็นหุ้นทุน ก.ล.ต. จึงออกหลักเกณฑ์ Private Placement ที่จะเปิดให้ SMEs และ Startups ที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม […]

Private Placement: เปิดทางขายหุ้น – หุ้นกู้แปลงสภาพ Read More »

ปลดล็อคข้อจำกัดการระดมทุนของ SMEs/Startups ด้วย Crowdfunding และ Private Placement

ปลดล็อคข้อจำกัดการระดมทุนของ SMEs/Startups ด้วย Crowdfunding และ Private Placement โดย จอมขวัญ คงสกุล CFA CAIA ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Private Placement และ Crowdfunding ช่วย ก.ล.ต. (SEC) ตอบโจทย์ความจำเป็นในการพัฒนา SMEs และ Startups ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาตลาดทุนไทย จึงได้ปลดล็อคข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านตลาดทุน พร้อมกับสนับสนุนและส่งเสริมให้องค์กรธุรกิจเหล่านั้น ให้สามารถระดมทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล Crowdfunding: ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพื่อทำให้กระบวนการระดมทุนสำหรับ SMEs และ Startups ผ่านคราวด์ฟันดิง (Crowdfunding) ในรูปแบบหลักทรัพย์ (Investment based Crowdfunding) ทั้ง “หุ้นคราวด์ฟันดิง” หรือ “หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง” ทำได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล นอกจากการเปิดให้ระดมทุนโดยวิธีดังกล่าวได้แล้ว

ปลดล็อคข้อจำกัดการระดมทุนของ SMEs/Startups ด้วย Crowdfunding และ Private Placement Read More »

การระดมทุนจากบุคคลหรือผู้ลงทุนในวงจำกัด หรือ Private Placement (PP)

วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นกลไกและรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งการจ้างงานที่กระจายไปในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ธุรกิจการเกษตรไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคการค้า รวมถึงธุรกิจบริการต่าง ๆ โดยปัจจุบัน SMEs ในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 43% เมื่อเทียบกับผลผลิตมวลรวมในประเทศของประเทศไทย ในช่วงเวลาที่ SMEs กำลังเผชิญความท้าทายเรื่องเงินทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทุกขนาดและทุกประเภทธุรกิจ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้กลับมามีความเข้มแข็งโดยเร็ว ในส่วนของ ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่พัฒนาตลาดทุน มีเป้าหมายที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถระดมทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันผู้ลงทุนก็ยังได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมด้วย ดังนั้น ก.ล.ต. จึงได้มีการออกหลักเกณฑ์เพื่อเปิดช่องทางให้ SMEs และ Startup ที่อยู่ในรูปแบบบริษัทจำกัดสามารถระดมทุนจากผู้ลงทุนผ่านตลาดทุนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว รวมถึงมีขั้นตอนที่ง่ายและไม่ซับซ้อน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจัดหาเงินทุนเพื่อนำไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้ โดยรูปแบบการลงทุนดังกล่าวเรียกว่า การระดมทุนจากบุคคลหรือผู้ลงทุนในวงจำกัด หรือ Private Placement (PP) การระดมทุนรูปแบบ PP นั้น เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถเลือกได้ว่าจะระดมทุนด้วยเครื่องมือลักษณะใดระหว่างการเสนอขาย ดังนี้ (1) หุ้น ซึ่งผู้ลงทุนจะมีสิทธิประโยชน์และความเสี่ยงเหมือนเจ้าของกิจการตามสัดส่วนหุ้นที่ถือ (2) หุ้นกู้แปลงสภาพ

การระดมทุนจากบุคคลหรือผู้ลงทุนในวงจำกัด หรือ Private Placement (PP) Read More »

Unicorn X Academy Article EP3: คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทของคุณเป็นที่สนใจของนักลงทุน และบริษัทของคุณนั้นน่าลงทุน(How do you know your company is investible (Private fundraising ?)

หากท่านเป็นผูู้ประกอบการปราถนาจะได้รับทุน การรู้ว่าหลักการพิจารณาว่าบริษัทนั้นน่าลงทุนหรือไม่เป็นสิ่งสำคัญ ปัจจัยที่สำคัญหลายประการ ต่อไปนี้เป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่นักลงทุนแบบ Private Equty (PE) มักพิจารณาในการลงทุนในองค์กรหรือกิจการที่มีกาความพร้อม ดังต่อไปนี้: สรุปโดยรวมแล้ว บริษัทใดที่สามารถแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางการตลาดที่ชัดเจน การดึงดูด ทีมงานที่แข็งแกร่ง ความได้เปรียบในการแข่งขัน รูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืน ย่อมมีโอกาสในการพิจารณาการระดมทุนอย่างแน่นอน Citation:“10 Factors Investors Consider When Evaluating Your Startup” by Tomasz Tunguz, Venture Capitalist at Redpoint Ventures, https://tomtunguz.com/10-factors-investors-consider-when-evaluating-your-startup/ ผู้เขียน: ผศ.ดร.กฤษณะ บุหลัน

Unicorn X Academy Article EP3: คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทของคุณเป็นที่สนใจของนักลงทุน และบริษัทของคุณนั้นน่าลงทุน(How do you know your company is investible (Private fundraising ?) Read More »

Unicorn X Academy Article EP2: ประโยชน์ของ Private Equity (PE) ที่ผู้ประกอบการควรรู้

PE เป็นประเภทของการลงทุนที่มีการระดมเงินทุนจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนเพื่อลงทุนในบริษัทเอกชนที่ไม่ได้มีการซื้อขายในที่สาธารณะ (Public) Private Equity (PE) โดยทั่วไปมีโครงสร้างเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด โดยมีหุ้นส่วนทั่วไปจัดการการลงทุนและทำการตัดสินใจลงทุนในนามของหุ้นส่วนจำกัด การลงทุนแบบ PE มุ่งเน้นการลงทุนในกิจการที่อยู่ในเชิงการเเติบโต (Growth stage) และ เติบโตเต็มที่ (Maturity Stage) บริษัทไพรเวทอิควิตี้จะเข้าซื้อบริษัทโดยใช้การผสมผสานระหว่างการจัดหาเงินทุนและตราสารหนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทและความสามารถในการทำกำไรเมื่อเวลาผ่านไป และในที่สุดก็ขายในราคาที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน การลงทุนเพื่อการเติบโตจะทำในบริษัทที่ทำกำไรและเติบโตแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ทุนเพื่อให้กิจการสามารถเร่งการเติบโต บริษัทไพรเวทอิควิตี้มักมีขอบเขตการลงทุนระยะยาว โดยมีเป้าหมายในการสร้างมูลค่าในช่วงเวลาหลายปีเช่น 3-5 ปี ก่อนที่จะออกจากการลงทุน (Exit) ผ่านการขายหรือการเสนอขายหุ้นในช่วงเวลานี้ พวกเขาอาจทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้บริหารของบริษัทในพอร์ตโฟลิโอเพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน ปรับปรุงต้นทุน และใช้กลยุทธ์การเติบโต ข้อดีอย่างหนึ่งของไพรเวทอิควิตี้สำหรับนักลงทุนคือศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดสาธารณะ เนื่องจากบริษัทเอกชนไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเช่นเดียวกับบริษัทมหาชน พวกเขาอาจสามารถบรรลุอัตราการเติบโตและผลกำไรที่สูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นนอกตลาดก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เนื่องจากโดยปกติแล้วจะมีสภาพคล่องน้อยกว่าและประเมินมูลค่าได้ยากกว่าการลงทุนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา PE ได้กลายเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญมากขึ้นสำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เทคโนโลยีและการดูแลสุขภาพ ตามรายงานของ Private Equity Growth Capital Council บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนสร้างงานมากกว่า

Unicorn X Academy Article EP2: ประโยชน์ของ Private Equity (PE) ที่ผู้ประกอบการควรรู้ Read More »

Unicorn X Academy Article EP1: Private Equity คืออะไร ?

Private Equity: PE (ไพรเวทอิควิตี้) หมายถึง การลงทุนในบริษัทเอกชนที่ไม่ได้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวข้องกับการรวมเงินทุนจาก คนที่มีมูลค่าสุทธิระดับสูง นักลงทุนระดับสถาบัน และบางครั้งแม้แต่กองทุนบำเหน็จบำนาญเพื่อได้มาซึ่งความเป็นเจ้าของในบริษัทเอกชน เป้าหมายหลักของไพรเวทอิควิตี้คือการสร้างผลตอบแทนสูงจาก โดยทั่วไป บริษัท PE จะเข้าถือหุ้นในบริษัทและทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้บริหารเพื่อเพิ่มมูลค่าของบริษัท นอกจากนี้ยังอาจให้ความเชี่ยวชาญ คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ และการเข้าถึงเครือข่ายผู้ติดต่อทางธุรกิจเพื่อช่วยให้บริษัทเติบโตและขยายตัว โดยทั่วไปแล้ว การลงทุนในตราสารทุนของภาคเอกชนจะถือครองไว้เป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะขายหรือนำเข้าสู่สาธารณะผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) กองทุนส่วนบุคคลอาจเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงและระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ ผู้เขียน: ผศ.ดร.กฤษณะ บุหลัน

Unicorn X Academy Article EP1: Private Equity คืออะไร ? Read More »

บริษัทยุคใหม่จะมีการทำงานที่เรียกว่า Agile company

ลักษณะ 3 ส่วนสำคัญ : Mindset , Skillset and Toolset WUC จึงมี รูปแบบ 3 ส่วนดังนี้ Mindset: บริษัท WUC มีวัฒนธรรมและที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น นวัตกรรม และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าพนักงานได้รับการสนับสนุนให้คิดนอกกรอบ ทดลองแนวคิดใหม่ๆ และแสวงหาวิธีปรับปรุงกระบวนการและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เช่น Growth mindset Skillset: ทีม WUC มีวิธีทำงาน Agile ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะเหล่านี้รวมถึงการจัดการโครงการ กใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน การสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการแก้ปัญหา นอกจากนี้ สมาชิกในทีมควรปรับตัวได้และสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญ เช่น OKRs , Management skills Toolset: WUC ใช้เครื่องมือต่างๆ มากมายเพื่อสนับสนุนระเบียบวิธีแบบ Agile รวมถึงซอฟต์แวร์การจัดการโครงการ เครื่องมือการทำงานร่วมกัน ระบบควบคุมเวอร์ชัน และเฟรมเวิร์กการทดสอบ เครื่องมือเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริษัทยุคใหม่จะมีการทำงานที่เรียกว่า Agile company Read More »

Scroll to Top